ใช้กลยุทธ์แจกของฟรีล่อลูกค้าเข้าคลินิกความงาม ยังได้ผลอยู่ไหม

เรื่องนี้ตอบยาวเลยนะครับ เพราะในยุคที่การแข่งขันในธุรกิจคลินิกความงามสูงขึ้น กลยุทธ์แจกบริการหรือสินค้าฟรี เช่น การวิเคราะห์ผิว เทสเตอร์ครีม หรือทรีทเมนท์ฟรี เริ่มได้ผลน้อยลง เพราะลูกค้าเริ่มไม่ตื่นเต้น ไม่เชื่อมั่น หรือบางคนรู้สึกว่าเป็นแค่มุกการตลาด โดยเฉพาะหากคลินิกนั้นให้ของฟรีแต่คุณภาพต่ำหรือไม่จริงใจกับลูกค้า แต่ถ้าคลินิกไหนกล้าให้ของดีฟรีจริงและมีความจริงใจในการบริการ สิ่งนี้จะสร้างความแตกต่างและคว้าใจลูกค้าได้อย่างยั่งยืน

กีตาร์ - ฝ่ายกลยุทธ์


freebie strategy beauty clinic 2

กลยุทธ์ดึงดูลูกค้าเข้าร้านมีแบบไหนบ้าง

ธุรกิจคลินิกความงามสามารถได้ลูกค้าใหม่จากกิจกรรมทางการตลาดหลากหลายรูปแบบ โดยกิจกรรมที่นิยม ได้แก่

  1. กิจกรรมแจกทดลอง (Trial/Free Sample Campaign)
    • เปิดโอกาสให้ลูกค้าลองบริการฟรีหรือในราคาพิเศษ เช่น การตรวจวิเคราะห์ผิวฟรี ทดลองทรีตเมนต์ในราคาพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์โดยตรง
  2. จัดเวิร์กช็อปหรือสัมมนาความงาม (Beauty Workshop/Seminar)
    • จัดกิจกรรมให้ความรู้ เช่น สอนแต่งหน้า วิธีดูแลผิว แจกเคล็ดลับ เทรนด์ความงาม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและรับรู้แบรนด์
  3. กิจกรรม Live สดในโซเชียลมีเดีย
    • ไลฟ์สดแนะนำบริการ ตอบคำถามลูกค้าแบบเรียลไทม์ แจกของรางวัลหรือสิทธิพิเศษให้กับผู้ชม ช่วยกระตุ้นการรับชมและเพิ่มโอกาสปิดการขาย
  4. จัดโปรโมชั่นตามเทศกาลหรือโอกาสพิเศษ
    • เช่น ส่วนลดวันเกิด แพ็กเกจโปรโมชั่นวันแม่ วันวาเลนไทน์ หรือช่วงเปลี่ยนฤดูกาลดึงดูดลูกค้าใหม่เข้าคลินิกได้เสมอ
  5. กิจกรรมแนะนำเพื่อน (Referral Program)
    • เมื่อลูกค้าเก่าแนะนำลูกค้าใหม่ ทั้งสองฝ่ายจะได้รับส่วนลดหรือของขวัญ ส่งเสริมให้ลูกค้าปัจจุบันช่วยหาลูกค้าใหม่
  6. ร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์หรือ KOLs
    • เชิญบล็อกเกอร์หรือผู้มีชื่อเสียงในโซเชียลเข้ามาลองบริการและรีวิว ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรวดเร็วและได้ความน่าเชื่อถือ
  7. กิจกรรมจับรางวัลหรือชิงโชค
    • แจกของรางวัลสำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนหรือจองบริการ สร้างแรงจูงใจในการเข้าร่วมและสร้างกระแสพูดถึง
  8. เปิดตัวสินค้า/บริการใหม่ (Grand Opening/Soft Launch)
    • จัดงานเปิดตัวเชิญลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและสื่อมวลชน เสริมสร้างภาพลักษณ์และทดลองบริการใหม่ ๆ
  9. กิจกรรมในชุมชน (CSR/Community Engagement)
    • เข้าร่วมงานเพื่อสังคมหรือให้คำปรึกษาความงามในพื้นที่สาธารณะ ทำให้เป็นที่รู้จักและสร้างความประทับใจ
  10. สร้างแคมเปญออนไลน์ให้แชร์ต่อได้ง่าย
    • เช่น กิจกรรม hashtag, ส่งรูป แชร์ประสบการณ์ เช่น แชร์ก่อน-หลังทำ ทรีตเมนต์แล้วลุ้นรางวัล

กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยเพิ่มการรับรู้ กระตุ้นความสนใจ และนำไปสู่การทดลองใช้บริการกับคลินิกในที่สุด ทั้งยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าได้อีกด้วยครับ

ดึงลูกค้าโดยไม่ใช้ราคาล่อ

อีกหนึ่งวิธีที่ผมคิดว่ายังได้ผลดีมากในปัจจุบันคือ การสร้างโปรแกรมแก้ไขปัญหาหรือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการใช้บริการคู่แข่ง เช่น บริการฟื้นฟูหรือแก้ไขผลลัพธ์ที่ไม่ตรงใจจากที่อื่น วิธีนี้ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุณใส่ใจและมีความรับผิดชอบมากกว่า นอกจากนี้ ควรเน้นประสบการณ์ที่เหนือกว่า เช่น เป็นบริการเฉพาะ เก่งเฉพาะด้าน หรือบริการรวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน คิวไม่แน่น ช่วยให้ลูกค้าไม่เสียเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่คู่แข่ง หรือแม้แต่คลินิกเจ้าตลาดอาจทำไม่ได้

การล่อด้วยของฟรียังได้ผลอยู่ไหม

ในยุคที่การแข่งขันในธุรกิจคลินิกความงามทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลายคนอาจสงสัยว่ากลยุทธ์การให้บริการฟรีเพื่อดึงดูดลูกค้ายังคงมีประสิทธิภาพอยู่หรือไม่? คำตอบคือ “ยังได้ผลอยู่” แต่มันได้ผลน้อยลงเรื่อยๆแล้วครับ

การเสนอบริการ “วิเคราะห์ผิวฟรี” ในยุคนี้อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนแต่ก่อน (คนกลัวด้วยซ้ำ เพราะมามุกเดิม) แม้จะยังเป็นวิธีหนึ่งที่คลินิกนิยมใช้อยู่ แต่ถ้าการตลาดได้ข้อมูล Insight มานั่งวิเคราะห์กันจริงๆ ลูกค้าไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือประทับใจมากนัก การแจกเทสเตอร์ครีมก็เช่นกัน แม้จะช่วยให้ลูกค้าได้ทดลองใช้สินค้า แต่ก็ยังไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกใช้บริการ

เมื่อไปถึงระดับการแจกโปรแกรมทรีทเมนท์ฟรี หลายคลินิกกลับเลือก “ฉวยโอกาส” ด้วยการลดขั้นตอน หรือจัดชุดโปรแกรมแบบต้นทุนต่ำ ๆ ไม่ได้ตั้งใจให้ของดีแก่ลูกค้าจริง ๆ ซึ่งสิ่งนี้กลับสร้างผลเสียต่อความน่าเชื่อถือ และทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าไม่ได้รับความจริงใจ

ตรงกันข้าม หากคลินิกไหนกล้า “ให้ของดีฟรีจริง” และจริงใจต่อลูกค้า ทั้งในเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน และความใส่ใจ สิ่งนี้ต่างหากจะกลายเป็นจุดแข็งที่สร้างความแตกต่างอย่างแท้จริง เพราะความไว้ใจจากลูกค้ามีค่ามากกว่ากลยุทธ์อะไรก็ตาม ลูกค้าจะรู้สึกได้และพร้อมจะเป็นลูกค้าประจำของคลินิกนั้นในระยะยาวครับ


ถ้าไม่มีประสบการณ์คลินิกแต่อยากเปิดคลินิก แนะนำให้เริ่มเรียนคอร์สที่เน้นพื้นฐานธุรกิจคลินิกความงาม เช่น งานบริหารคน งานขาย การขอใบอนุญาต การวางระบบการตลาด และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่จำเป็นต้องลึกซึ้ง แต่ต้องรู้ว่าองค์ประกอบสำคัญมันเป็นยังไง และค่อยมาศึกษาเครื่องมือ ทางลัดต่างๆ แต่ที่เคยเจอส่วนมากมักจะถามหาทางลัดก่อน ซึ่งต้องยอมรับว่าบางเรื่องมันไม่มีทางลัดครับ

อ่านต่อ

ยอมรับเลยค่ะตอนที่จูนเข้าวงการใหม่ๆ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วก็สงสัยเหมือนกัน ทำไมต้อง เอ อะ เอส แอส แอ่น แอล แต่คิดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่สรุปมาเหล่านี้ค่ะ บางคลินิกอาจจะใช้เหตุและผล แต่บางคลินิกเป็นเรื่องความเชื่อล้วนๆ ไม่มีความจริงที่เป็น Fact

อ่านต่อ

AI Transformation คือการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ปรับเปลี่ยนและยกระดับกระบวนการทำงาน ถ้าให้ยกตัวอย่างงานภายในคลินิกก็มีหลายส่วน เช่น เพื่อให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพ ลดงานที่ซ้ำซ้อน และช่วยให้ตัดสินใจด้วยข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้น เช่น ใช้ AI วิเคราะห์ปัญหาผิว จัดการนัดหมาย หรือแนะนำโปรแกรมดูแลที่เหมาะกับแต่ละคน มันจะต่างจากปัจจุบันก็ตรงที่ตอนนี้เราใช้งานเป็นหลัก มีระบบเข้ามาครอบนิดหน่อย ความผิดพลาด ล่าช้า Error มีสูงมาก และที่สำคัญสุดมันขาดประสิทธิภาพที่วัดผลได้ยาก

สรุปง่าย ๆ คือ AI Transformation ไม่ใช่แค่ติดตั้งเครื่องมือใหม่ แต่คือการเปลี่ยนวิธีคิดและการทำงานให้ทันเทคโนโลยี เพื่อให้คลินิกสามารถแข่งขันในตลาดได้ดียิ่งขึ้นและตอบโจทย์ลูกค้าในยุคปัจจุบันเลยครับ ผู้บริหารคลินิกไหนละเลยเรื่องนี้ หรือช้าเกินไป อาจจะโดนคู่แข่งทิ้งไว้ข้างหลังไกลยิ่งกว่าเดิม

อ่านต่อ

ตอบตามที่เห็นมาตลอด 12 ปี ของตลาดความงาม คือมันทั้งจริง และไม่จริงครับ

จริง เพราะ (ในอดีต) ยุคก่อนที่การแข่งขันยังไม่สูงเท่าปัจจุบัน และคู่แข่งอาจจะยังไม่ได้เน้นการตลาดมากนัก คลินิกที่มีสินค้าและบริการดีจริงๆ อาจจะอยู่ได้ด้วยคุณภาพและการบอกต่อของลูกค้าเป็นหลัก ทำให้ดูเหมือนว่าไม่ต้องพึ่งพาการโฆษณามากนัก ต่างคนต่างมีย่าน มีโซน แบ่งลูกค้าชัดเจน

ไม่จริง สำหรับยุคนี้ ตอนนี้ ที่มีคลินิกเปิดใหม่มากมาย การแข่งขันสูงมาก และทุกคนเข้าถึงเครื่องมือการตลาดได้ง่ายขึ้น การมีแค่สินค้าดี บริการดี อย่างเดียวไม่เพียงพอจริงๆ ครับ จำเป็นต้อง “บอก” ให้ลูกค้ารู้ “หา” ตลาดที่ใช่ และ “ทำ” การตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ได้ ซึ่งก็คือการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ นั่นเอง ออนไลน์ ออฟไลน์ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องเลือกอีกต่อไป มันคือไม่ทำไม่ได้เลยต่างหากครับ

อ่านต่อ

ให้คำแนะนำได้ครับ ทีมการตลาดที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจคลินิกไม่ได้มีรูปแบบตายตัว ต้องพิจารณาจากขนาดขององค์กร จำนวนสาขา และเป้าหมายทางธุรกิจ เช่น การเพิ่มยอดขาย การสร้างแบรนด์ หรือการขยายฐานลูกค้า ตำแหน่งในทีมสามารถปรับได้ให้เหมาะสมกับงบประมาณและทรัพยากรที่มี หากเป็นคลินิกขนาดเล็กถึงปานกลาง ควรเลือกทีมที่มีความสามารถหลากหลายในแต่ละตำแหน่ง เพื่อลดจำนวนคน แต่ยังคงฟังก์ชันหลักของการตลาด

สำหรับคลินิกที่มี 1-3 สาขา ทีมที่แนะนำควรมี 4 ตำแหน่งหลัก ได้แก่ Marketing Strategist ที่วางแผนการตลาดและดูแลการยิงโฆษณา, Content Specialist ที่สร้างคอนเทนต์และผลิตงานวิดีโอ, Design Specialist ที่ดูแลงานกราฟิก และ Influencer & Partnership Manager ที่บริหารความร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์และพาร์ทเนอร์ ทีมขนาดนี้ช่วยให้ครอบคลุมทุกงานสำคัญ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคล่องตัว เหมาะสำหรับการเริ่มต้นสร้างแบรนด์และขยายฐานลูกค้าในระดับท้องถิ่นหรือกลุ่มเป้าหมายเฉพาะต่อไป

อ่านต่อ

Home»FAQ»ใช้กลยุทธ์แจกของฟรีล่อลูกค้าเข้าคลินิกความงาม ยังได้ผลอยู่ไหม