
กลยุทธ์ดึงดูลูกค้าเข้าร้านมีแบบไหนบ้าง
ธุรกิจคลินิกความงามสามารถได้ลูกค้าใหม่จากกิจกรรมทางการตลาดหลากหลายรูปแบบ โดยกิจกรรมที่นิยม ได้แก่
- กิจกรรมแจกทดลอง (Trial/Free Sample Campaign)
- เปิดโอกาสให้ลูกค้าลองบริการฟรีหรือในราคาพิเศษ เช่น การตรวจวิเคราะห์ผิวฟรี ทดลองทรีตเมนต์ในราคาพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์โดยตรง
- จัดเวิร์กช็อปหรือสัมมนาความงาม (Beauty Workshop/Seminar)
- จัดกิจกรรมให้ความรู้ เช่น สอนแต่งหน้า วิธีดูแลผิว แจกเคล็ดลับ เทรนด์ความงาม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและรับรู้แบรนด์
- กิจกรรม Live สดในโซเชียลมีเดีย
- ไลฟ์สดแนะนำบริการ ตอบคำถามลูกค้าแบบเรียลไทม์ แจกของรางวัลหรือสิทธิพิเศษให้กับผู้ชม ช่วยกระตุ้นการรับชมและเพิ่มโอกาสปิดการขาย
- จัดโปรโมชั่นตามเทศกาลหรือโอกาสพิเศษ
- เช่น ส่วนลดวันเกิด แพ็กเกจโปรโมชั่นวันแม่ วันวาเลนไทน์ หรือช่วงเปลี่ยนฤดูกาลดึงดูดลูกค้าใหม่เข้าคลินิกได้เสมอ
- กิจกรรมแนะนำเพื่อน (Referral Program)
- เมื่อลูกค้าเก่าแนะนำลูกค้าใหม่ ทั้งสองฝ่ายจะได้รับส่วนลดหรือของขวัญ ส่งเสริมให้ลูกค้าปัจจุบันช่วยหาลูกค้าใหม่
- ร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์หรือ KOLs
- เชิญบล็อกเกอร์หรือผู้มีชื่อเสียงในโซเชียลเข้ามาลองบริการและรีวิว ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรวดเร็วและได้ความน่าเชื่อถือ
- กิจกรรมจับรางวัลหรือชิงโชค
- แจกของรางวัลสำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนหรือจองบริการ สร้างแรงจูงใจในการเข้าร่วมและสร้างกระแสพูดถึง
- เปิดตัวสินค้า/บริการใหม่ (Grand Opening/Soft Launch)
- จัดงานเปิดตัวเชิญลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและสื่อมวลชน เสริมสร้างภาพลักษณ์และทดลองบริการใหม่ ๆ
- กิจกรรมในชุมชน (CSR/Community Engagement)
- เข้าร่วมงานเพื่อสังคมหรือให้คำปรึกษาความงามในพื้นที่สาธารณะ ทำให้เป็นที่รู้จักและสร้างความประทับใจ
- สร้างแคมเปญออนไลน์ให้แชร์ต่อได้ง่าย
- เช่น กิจกรรม hashtag, ส่งรูป แชร์ประสบการณ์ เช่น แชร์ก่อน-หลังทำ ทรีตเมนต์แล้วลุ้นรางวัล
กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยเพิ่มการรับรู้ กระตุ้นความสนใจ และนำไปสู่การทดลองใช้บริการกับคลินิกในที่สุด ทั้งยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าได้อีกด้วยครับ
ดึงลูกค้าโดยไม่ใช้ราคาล่อ
อีกหนึ่งวิธีที่ผมคิดว่ายังได้ผลดีมากในปัจจุบันคือ การสร้างโปรแกรมแก้ไขปัญหาหรือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการใช้บริการคู่แข่ง เช่น บริการฟื้นฟูหรือแก้ไขผลลัพธ์ที่ไม่ตรงใจจากที่อื่น วิธีนี้ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุณใส่ใจและมีความรับผิดชอบมากกว่า นอกจากนี้ ควรเน้นประสบการณ์ที่เหนือกว่า เช่น เป็นบริการเฉพาะ เก่งเฉพาะด้าน หรือบริการรวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน คิวไม่แน่น ช่วยให้ลูกค้าไม่เสียเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่คู่แข่ง หรือแม้แต่คลินิกเจ้าตลาดอาจทำไม่ได้
การล่อด้วยของฟรียังได้ผลอยู่ไหม
ในยุคที่การแข่งขันในธุรกิจคลินิกความงามทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลายคนอาจสงสัยว่ากลยุทธ์การให้บริการฟรีเพื่อดึงดูดลูกค้ายังคงมีประสิทธิภาพอยู่หรือไม่? คำตอบคือ “ยังได้ผลอยู่” แต่มันได้ผลน้อยลงเรื่อยๆแล้วครับ
การเสนอบริการ “วิเคราะห์ผิวฟรี” ในยุคนี้อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนแต่ก่อน (คนกลัวด้วยซ้ำ เพราะมามุกเดิม) แม้จะยังเป็นวิธีหนึ่งที่คลินิกนิยมใช้อยู่ แต่ถ้าการตลาดได้ข้อมูล Insight มานั่งวิเคราะห์กันจริงๆ ลูกค้าไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือประทับใจมากนัก การแจกเทสเตอร์ครีมก็เช่นกัน แม้จะช่วยให้ลูกค้าได้ทดลองใช้สินค้า แต่ก็ยังไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกใช้บริการ
เมื่อไปถึงระดับการแจกโปรแกรมทรีทเมนท์ฟรี หลายคลินิกกลับเลือก “ฉวยโอกาส” ด้วยการลดขั้นตอน หรือจัดชุดโปรแกรมแบบต้นทุนต่ำ ๆ ไม่ได้ตั้งใจให้ของดีแก่ลูกค้าจริง ๆ ซึ่งสิ่งนี้กลับสร้างผลเสียต่อความน่าเชื่อถือ และทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าไม่ได้รับความจริงใจ
ตรงกันข้าม หากคลินิกไหนกล้า “ให้ของดีฟรีจริง” และจริงใจต่อลูกค้า ทั้งในเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน และความใส่ใจ สิ่งนี้ต่างหากจะกลายเป็นจุดแข็งที่สร้างความแตกต่างอย่างแท้จริง เพราะความไว้ใจจากลูกค้ามีค่ามากกว่ากลยุทธ์อะไรก็ตาม ลูกค้าจะรู้สึกได้และพร้อมจะเป็นลูกค้าประจำของคลินิกนั้นในระยะยาวครับ