คำถามนี้มีทั้งคุณหมอที่เปิดคลินิกมานาน หรือเพิ่งจะเปิดก็มี จึงต้องย้อนกลับมาดูว่าเรามีข้อมูลอะไรอยู่บ้าง เก็บที่ไหน และหาเจอง่ายไหม? ถ้ายังเป็นกระดาษอยู่ หรือไฟล์กระจัดกระจายกันหลายที่ ขั้นแรกคือต้องทำให้ข้อมูลพวกนี้เป็นดิจิทัล
3 ขั้นตอนง่ายๆ ในการเปลี่ยนข้อมูลคนไข้ให้เป็นดิจิทัล
- ถ่ายรูปเอกสารที่มีอยู่
- ใช้แอปกล้องในมือถือที่รองรับ OCR หรือแอปช่วยสแกน เช่น CamScanner, Adobe Scan หรือ Google Drive ซึ่งมีฟีเจอร์ OCR ในตัว
- ถ่ายรูปเอกสารทุกแผ่น (แฟ้มประวัติ สมุดจด ฯลฯ) ให้คมชัด แล้วจัดเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่พร้อมใช้งาน
- ใช้ AI แปลงภาพเป็นข้อความ (OCR)
- อัปโหลดรูปที่ถ่ายไปยังโปรแกรม OCR หรือระบบที่ใช้งาน เช่น Google Docs ที่รองรับ OCR ฟรี หรือซอฟต์แวร์จัดการข้อมูลคนไข้ที่มีฟังก์ชันนี้
- ระบบจะดึงข้อมูลหลักๆ ออกมา เช่น ชื่อคนไข้ เบอร์โทร วันที่เข้ารับบริการ และประวัติ ให้หมอนำไปใช้งานต่อได้
- จัดเรียงข้อมูลในระบบ POS คลินิก
- อัปโหลดข้อมูลที่ได้รับจาก OCR เข้าระบบ POS ของคลินิก (ถ้ายังไม่มี ระบบ POS ในปัจจุบันมีให้เลือกเยอะมาก เช่น Clinic Management Systems ต่างๆ) ส่วนใหญ่มีทีมงานคอยช่วยเหลือทั้งติดตั้งระบบและแนะนำการใช้งาน
- POS ช่วยบันทึกข้อมูลได้ครบ เช่น ประวัติการรักษา การนัดหมาย และออกใบเสร็จในที่เดียว

ตัวอย่างการคำนวณให้เห็นภาพ
ยกตัวอย่างมีจำนวนคนไข้ทั้งหมด = 50,000 ราย
- เวลาเฉลี่ยต่อคนไข้ = 15 วินาที
- คน 1 คน ถ่ายรูปและอัปโหลดได้ 1,440 ราย/วัน (ทำงานจริง 6 ชั่วโมง/วัน x 240 ราย/ชั่วโมง)
กรณีใช้ 1 คนถ่ายรูป + อัปโหลด
- วันละ 1,440 ราย
- ทั้งหมดจะใช้เวลา = 50,000 ÷ 1,440 = 34.7 วัน (ประมาณ 35 วัน ทำงานทุกวันต่อเนื่อง)
กรณีใช้ทีม 3 คน
- วันละ 1,440 × 3 = 4,320 ราย/วัน
- ทั้งหมดจะใช้เวลา = 50,000 ÷ 4,320 = 11.6 วัน (ประมาณ 12 วัน)
กรณีใช้ทีม 5 คน
- วันละ 1,440 × 5 = 7,200 ราย/วัน
- ทั้งหมดจะใช้เวลา = 50,000 ÷ 7,200 = 6.9 วัน (ประมาณ 7 วัน)
การมีข้อมูลที่จัดเก็บดี จะช่วยให้คลินิกทำงานได้เร็วขึ้น ความยุ่งยากในเรื่องการค้นหาและบันทึกก็ลดลง เช่น หมอจะดูประวัติคนไข้ย้อนหลัง หรือส่งโปรโมชันให้ลูกค้าเก่า ข้อมูลมันต้องพร้อมใช้งาน แล้วพอเก็บข้อมูลได้ดีขึ้น AI จะช่วยเข้ามาต่อยอดได้อีก เช่น ใช้คาดการณ์ว่าใครมีแนวโน้มกลับมาใช้บริการ หรือออกแบบการดูแลเฉพาะบุคคลแบบตอบโจทย์มากกว่าเดิม
ปัญหาเดียวของงานนี้คือ “ลายมือหมอใน OPD” แต่เชื่อเถอะครับ ไปลองดูก่อน แล้วคุณจะทึ่งกับสิ่งที่ AI ทำได้