
เราสามารถ ลดโอกาสการยิงแอดไปหากลุ่ม “แชทผี” หรือพยายามหลีกเลี่ยงลูกค้ากลุ่มที่ไม่มีตัวตนจริงในแคมเปญภายหน้าได้ โดยใช้เทคนิคการตั้งค่าโฆษณาและการปรับกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ได้ลูกค้าที่มีความสนใจจริงมากขึ้น
1. ใช้ Facebook Custom Audiences แยกกลุ่มเป้าหมายจากลูกค้าเดิมที่ “มีตัวตนจริง”
- วิธีทำ:
- เข้าไปที่ Facebook Ads Manager แล้วสร้าง Custom Audience โดยอัปโหลดฐานข้อมูลลูกค้าจริง (อีเมล เบอร์โทร หรือชื่อ Facebook ที่เคยซื้อหรือสนทนาจริงๆ)
- เลือก Lookalike Audience เพื่อให้ระบบหาลูกค้าที่มีพฤติกรรมคล้ายกันกับลูกค้าเดิมที่พร้อมซื้อบริการ หรือที่เคยโต้ตอบจริง แทนการปรับใช้กลุ่มเป้าหมายใหม่แบบคร่าวๆ
- ผลลัพธ์ที่ได้:
ลูกค้าใหม่ที่ระบบเลือกให้นี้มักจะเป็นลูกค้าที่มีแนวโน้มสนใจและคุยต่อในแชทจริง ลดโอกาสเจอแชทผีหรือคนที่แค่ทดลองกดดู
2. กำจัด “แชทผี” ด้วยการใช้การ Exclude (ยกเว้นกลุ่มเป้าหมาย)
- วิธีทำ:
- สร้างกลุ่ม Audience (Audience Insights) จากแอดก่อนหน้า โดยระบุตั้งค่าเฉพาะคนที่ทักมา แต่ไม่มีปฏิสัมพันธ์ใดๆ เพิ่มเติมเลย (เช่น ไม่กดเปิดอ่านต่อ หรือไม่มีการโต้ตอบ)
- ระหว่างตั้งค่าแคมเปญใหม่ ให้เลือกกลุ่ม Exclude Audience นี้ออก เพื่อไม่ให้โฆษณาไปยิงหาพวกเขาอีกในอนาคต
- จุดควรระวัง:
แม้วิธียกเว้นกลุ่มนี้จะลดปัญหาแชทผีได้ แต่ระวังอย่าตัดคนที่เงียบ เพราะยังลังเล/รอโปรโมชันใหม่ เพราะพวกเขาอาจกลับมาซื้อในอนาคต
3. เลือกกลุ่มเป้าหมาย (Targeting) ให้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
- ใช้ข้อมูลเชิงลึกของธุรกิจ (Audience Insights) เพื่อหารูปแบบลูกค้าเฉพาะ เช่น
- เพศ: ผู้หญิงที่อายุ 25-40 ปี
- ความสนใจเฉพาะ: กลุ่มคนที่เคยสนใจคลินิก, บริการเสริมความงาม, สกินแคร์ระดับกลาง-สูง
- พฤติกรรม: คนที่มีกิจกรรมในเพจเกี่ยวกับสุขภาพและความงาม หรือเคยมีประวัติการซื้อผ่าน Facebook
- กำจัดเป้าหมายกว้างเกินไป:
อย่ายิงไปยังกลุ่มที่สนใจแค่ “ลดน้ำหนัก” หรือ “สินค้าเพื่อความงาม” ทั่วๆ ไป เพราะมักจะเจอคนที่ไม่มีความพร้อมที่จะซื้อบริการราคาแพง
4. ใช้ Landing Page แบบสอบถามเพื่อคัดกรองก่อนทักแชท
- ตั้งหน้าลงทะเบียนหรือฟอร์มสอบถามง่ายๆ (Google Form หรือ Facebook Lead Ads) ที่ให้ลูกค้าใส่ข้อมูลเบื้องต้น เช่น ชื่อ เบอร์โทร ความสนใจ
- ใช้ฟอร์มนี้ในการดึงลูกค้าที่ตั้งใจจริง อยากได้บริการจริงๆ โดยเฉพาะ เช่นคนที่สนใจแพ็กเกจเฉพาะหรือโปรโมชั่นแรงๆ
- สำหรับ “ลูกค้าแชทผี” พอมีขั้นตอนต้องกรอกข้อมูลเพิ่ม พวกเขามักจะหายไปเองก่อนจะทักแชท
5. ติดตามผลและปรับแคมเปญต่อเนื่องหลังการยิงแอด
- วิเคราะห์กลุ่ม “แชทผี” จากแคมเปญที่ผ่านมาว่า กลุ่มเป้าหมายไหนมีส่วนสร้างปัญหามากที่สุด เช่น
- ช่วงเวลายิงแอด (กลางคืนเยอะกว่ากลางวันหรือไม่?)
- พื้นที่หรือโลเคชันที่ไม่ได้ผล
- ใช้ข้อมูลนี้สร้างแคมเปญใหม่โดยลดแหล่งที่ให้ผลลัพธ์ต่ำ
สรุป: วิธีคัดกรองและลดแชทผีในอนาคต
- ใช้ Custom และ Lookalike Audience: อ้างอิงจากลูกค้าที่สนใจจริงในอดีต เพื่อยิงโฆษณาที่แม่นยำขึ้น
- Exclude Audience: กำจัดกลุ่มคนที่เคยทักแล้วหายหรือไม่มีปฏิสัมพันธ์ออกจากเป้าหมายใหม่
- ตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายให้เจาะจง: ยิงโฆษณาไปยังกลุ่มที่สนใจธุรกิจคลินิกความงามจริงๆ
- ใช้ Landing Page/ฟอร์มสอบถามเพิ่ม: เพื่อคัดแยกคนที่ตั้งใจจากคนที่ทักเพราะข้อความอัตโนมัติ
- วิเคราะห์และปรับแต่งแคมเปญ: ใช้ข้อมูลจริงมาช่วยตัดสินใจปรับแผนการยิงแอดอย่างต่อเนื่อง
วิธีเหล่านี้อาจไม่ทำให้ปัญหา “แชทผี” หายไป 100% แต่ถ้าดำเนินการอย่างเป็นระบบ รับรองว่าจะลดปัญหาได้ไม่ต่ำกว่า 50-70% ในแคมเปญต่อไป และช่วยให้คุณโฟกัสกับลูกค้าที่พร้อมคุยและพร้อมจ่ายมากขึ้นแน่นอนค่ะ!