การใช้ Content Slider (หรือ Carousel) บนเว็บไซต์เป็นที่ถกเถียงกันมากมายในด้านของประสิทธิภาพและผลกระทบต่อผู้ใช้งานเว็บไซต์ มีงานวิจัยและการสำรวจหลายชิ้นที่วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้งานในบริบทของเว็บไซต์ที่มี และไม่มี Content Slider โดยสรุปข้อมูลจากงานวิจัยที่น่าสนใจได้ดังนี้

งานวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ Slider
Impact of Carousels on Engagement – Usability Findings by Jakob Nielsen
- Jakob Nielsen ผู้เชี่ยวชาญด้าน UX Design แสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่ผู้ใช้ไม่สนใจเนื้อหาใน Content Slider ที่เลื่อนไปโดยอัตโนมัติ (Autoplay Carousel)
- สรุปจากการวิพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ในส่วนของ Content Slider เป็นหัวข้อที่มีการวิจัยอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก Slider (หรือ Carousel) ยังเป็นฟีเจอร์ที่นิยมบนเว็บไซต์จำนวนมาก แต่ผลการสำรวจและวิจัยส่วนใหญ่ชี้ให้เห็นว่าการใช้ Slider อาจไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ และบางครั้งยังอาจส่งผลเสียต่อประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) แทน
การเพิกเฉยต่อตัว Slider (Banner Blindness)
- ผลสำรวจของ Nielsen Norman Group (NNG)
- การสำรวจกับผู้ใช้งานเว็บไซต์พบว่า Slider มักจะถูกมองข้าม เนื่องจากผู้ใช้สนใจดูเฉพาะข้อมูลที่สำคัญและแสดงผลได้ทันที แทนที่จะรอให้ Slider เปลี่ยนไปที่เนื้อหาอื่น
- ผู้ใช้มักสนใจ “ข้อมูลข้อความถาวร” ที่อยู่ในสายตาโดยตรง มากกว่า Slider แบบเลื่อนที่แสดงข้อความชั่วคราว
- การทำ A/B Testing โดยหลายองค์กรพบว่า หน้าเว็บที่ใช้ Content Highlight คงที่ มักจะมีอัตราคอนเวอร์ชั่น (Conversion Rate) สูงกว่าหน้าเว็บที่ใช้ Slider
การคลิกใน Slider ต่ำมาก
- รายงานการวิเคราะห์จาก Erik Runyon พบว่า
- สไลด์แรกของ Slider ได้รับการคลิกประมาณ 84%-94% ของเวลา
- ส่วนเนื้อหาสไลด์ที่เหลือ (2, 3, 4 ฯลฯ) ได้รับคลิกน้อยกว่า 1% รวมกัน
- ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่ได้รอดูสไลด์ทั้งหมด นักการตลาดเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “Slider Fatigue” เพราะผู้ใช้ไม่ค่อยสนใจสิ่งที่ไม่ได้เห็นในครั้งแรก

เปรียบเทียบพฤติกรรมระหว่างเว็บที่มีและไม่มี Slide
เว็บไซต์ที่ไม่มี Slider
- ผู้ใช้งานสามารถเห็นและเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ
- การออกแบบที่ไม่มี Slider ทำให้ข้อมูลลำดับความสำคัญ (Hierarchy) ชัดเจนมากขึ้น และผู้ใช้รู้เลยว่าควรโฟกัสที่จุดไหน
- การดูหน้าเว็บ (Page Scanning Behavior) เร็วขึ้น เพราะผู้ใช้เลือกสำรวจข้อมูลด้วยตัวเอง ไม่ถูกบังคับให้รอการเปลี่ยนของ Slider
เว็บไซต์ที่มี Slider
- ผู้ใช้งานที่เร่งรีบหรือไม่อดทนอาจพลาดข้อมูลใน Slides ที่ไม่ใช่สไลด์แรก
- การแสดงข้อมูลใน slider มักจะขัดกับ “Content Hierarchy” ของผู้ใช้ เพราะข้อมูลกระจัดกระจายและต้องใช้เวลาในการตามดูแต่ละ slide
- หากการโหลดหน้าเว็บช้า ผู้ใช้มักจะรู้สึกหงุดหงิด โดยเฉพาะคอนเทนต์ที่เขาอยากได้กลับถูกเลื่อนไปยัง Slide อื่น
Slider กับ Conversion Rate (อัตราคอนเวอร์ชั่น)
การทดลองของ University of Notre Dame
- เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย Notre Dame เคยทดสอบ Slider กับหน้าเว็บการตลาด พบว่าการใช้ Static Content (คอนเทนต์ที่ไม่เปลี่ยนสไลด์) เพิ่มอัตราการคลิกได้สูงขึ้น 29% เมื่อเทียบกับ Slider
- อัตรา Conversion ดีกว่า เพราะ Static Content ช่วยลดความสับสนให้กับผู้ใช้งานที่ต้องการข้อมูลสำคัญทันที
การวิจัยจาก WordPress Community
- ใน WordPress Community มีผลสำรวจโดยนักพัฒนาเว็บไซต์พบว่าเว็บไซต์ธุรกิจที่ไม่มี Slider มักมี
- Bounce Rate ต่ำกว่า
- Page Speed ดีกว่า
- Engagement (มีส่วนร่วมของผู้ใช้) สูงกว่าถึง 38% เมื่อเทียบกับเว็บที่ใช้ Slider
พฤติกรรมที่ต่างกันของผู้ใช้
- ผู้ใช้ ต้องการเข้าถึงข้อมูลได้เร็วที่สุด
เว็บไซต์ที่ไม่มี Slider ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสแกนข้อมูลได้ทันที โดยไม่ต้องรอเวลาเปลี่ยน - ผู้ใช้มักเพิกเฉยต่อ Slider ที่หมุนอัตโนมัติ เพราะรู้สึกว่าควบคุมไม่ได้ หรือข้อมูลอาจไม่เกี่ยวข้องกับความต้องการของพวกเขา
- ผู้ใช้มือถือมักหลีกเลี่ยง Slider
- Slider อาจยากต่อการโต้ตอบ (Interaction) บนอุปกรณ์มือถือ เช่น การเลื่อนด้วยนิ้ว หรือปัญหากับความเล็กของปุ่ม
แนวทางใหม่ แทนที่ Slider
หากต้องการรักษาข้อมูลให้น่าสนใจ แต่เลี่ยงปัญหา Slider สามารถใช้ แนวทางที่ดีกว่า เช่น
- ใช้ Static Hierarchical Content: ใช้ข้อความและภาพที่สำคัญนำเสนอเป็นส่วนๆ แทนการใส่ Slide
- ใช้ Tabbed Navigation: หากต้องการแสดงข้อมูลหลายชุด (เหมือน Slider) ใช้ Tab หรือ Toggle Switch เพื่อให้ผู้ใช้เลือกดูเนื้อหาเอง
- หากต้องมี Slider จริงๆ
- ใช้ Manual Slider (ควบคุมได้เอง): ลดปัญหาอัตโนมัติหมุนแล้วผู้ใช้พลาดข้อมูล
- เปิดใช้ Lazy Load และลดขนาดภาพเพื่อลดผลกระทบต่อ Page Speed
สรุป
- เว็บไซต์ที่ไม่มี Slider มักจะให้ประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) ที่ดีกว่า เพราะผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้ในทันที
- Slider อาจเหมาะกับการแสดงผลในบางกรณี เช่น Portfolio หรือ Showcase แต่ควรจำกัดการใช้งาน
- หากต้องใช้ Slider จริงๆ ควรออกแบบให้ทำงานไว น้ำหนักเบา และไม่ซับซ้อน เพื่อให้เว็บไซต์ยังคงโหลดเร็วและไม่เสีย PageSpeed Score
- ถ้าแนะนำลูกค้าไปแล้ว แต่ลูกค้าตัดสินใจอยากให้มี ก็ถือว่าเป็นที่สิ้นสุด 🙂