ข้อเสีย! การทำ Personal Branding ของบุคลากรทางการแพทย์

เชื่อว่าคุณหมอหลายคน และบุคลากรทางการแพทย์หลายท่าน น่าจะเริ่มมีแนวคิดว่าอยากสร้างตัวตน อยากออกมาให้ความรู้ ทำคลิปลงโซเชียลอยู่ไม่มากก็น้อย ข้อดีของการทำ Personal Branding คงเคยอ่าน หรือผ่านมามาบ้างแล้ว แต่ข้อเสีย อาจจะยังไม่มีคนบอกมากนัก โดยเฉพาะข้อเสียที่จะกระทบกับเราในระยะยาว วันนี้ผมขอแชร์ความเห็นในเรื่องนี้ครับ ผมขอเริ่มที่ข้อแรก คือการที่ข้อมูลส่วนตัว

ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว

  • การเปิดเผยตัวตนในฐานะเจ้าของคลินิกอาจทำให้ชีวิตส่วนตัวของเจ้าของถูกรุกล้ำมากขึ้น ทั้งจากลูกค้าที่อาจติดตามเรื่องส่วนตัว หรือจากการถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสาธารณะ ทำให้เกิดความกดดันและผลกระทบด้านจิตใจได้

แบรนด์คลินิกขึ้นอยู่กับตัวบุคคลมากเกินไป

  • หากเจ้าของคลินิกทำ Personal Branding ที่แข็งแกร่งเกินไป อาจทำให้แบรนด์ของคลินิกขึ้นอยู่กับชื่อเสียงของตัวบุคคลมากเกินไปจนขาดความเป็นอิสระ หากเกิดปัญหา เช่น ชื่อเสียงเสียหายหรือเจ้าของไม่สามารถโปรโมตตัวเองต่อได้ คลินิกอาจได้รับผลกระทบโดยตรง
  • ลูกค้าอาจมองว่าคลินิกแข็งแกร่งเพราะ “เจ้าของ” มากกว่าทีมงานหรือคลินิกโดยรวม

ภาพลักษณ์ที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายคลินิก

  • Personal Branding ของเจ้าของอาจไม่สอดคล้องหรือขัดแย้งกับแบรนด์ของคลินิก เช่น หากคลินิกมุ่งเน้นความเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่คุณหมอเจ้าสร้างภาพลักษณ์ที่ดูเป็นกันเองมากเกินไป อาจสร้างความสับสนให้กับลูกค้า
  • บุคลิกส่วนตัวของเจ้าของอาจไม่ตรงกับตลาดเป้าหมาย ทำให้เสียโอกาสดึงดูดลูกค้าใหม่

การแบกรับความคาดหวังสูงจากลูกค้า

  • การสร้างแบรนด์ตัวเองอย่างมากอาจทำให้ลูกค้าคาดหวังว่าเจ้าของคลินิกจะต้องลงมือดูแลทุกอย่างด้วยตัวเอง เช่น ต้องเป็นผู้ให้คำปรึกษา ให้การรักษา หรืออยู่ที่คลินิกตลอดเวลา หากไม่เป็นไปตามความคาดหวังเหล่านี้ อาจสร้างความไม่พอใจหรือความรู้สึกผิดหวังในตัวลูกค้า

ความเสี่ยงต่อชื่อเสียงของคลินิก

  • หากเจ้าของคลินิกมีปัญหาในเรื่องภาพลักษณ์ การวิพากษ์วิจารณ์ในที่สาธารณะ หรือการแสดงออกที่ไม่เหมาะสม ย่อมส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของคลินิกโดยตรง เนื่องจากแบรนด์ของทั้งตัวบุคคลและคลินิกมักถูกเชื่อมโยงกัน
  • ตัวอย่างเช่น หากเกิดดราม่าในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับบุคคล อาจลุกลามไปสู่การตั้งคำถามถึงมาตรฐานของคลินิกด้วย

การเพิ่มต้นทุนและภาระการดูแลแบรนด์

เพิ่มความเสี่ยงต่อการแข่งขันในธุรกิจ

  • หากคู่แข่งในธุรกิจนำจุดเด่นใน Personal Branding ของเจ้าของมาโจมตี เช่น การแสดงให้เห็นจุดอ่อนในคุณภาพบริการที่โปรโมต หรือทำให้ภาพลักษณ์ที่เจ้าของพยายามสร้างดูขาดความน่าเชื่อถือ ก็อาจทำให้เสียเปรียบในเชิงธุรกิจ
  • การเน้นภาพลักษณ์บุคคลมากเกินไป อาจทำให้คลินิกดูเหมือนขาย “ความดัง” ของเจ้าของ แทนที่จะเน้นคุณภาพบริการหรือนวัตกรรมในคลินิก

ความน่าเชื่อถือที่ต้องเผชิญกับข้อกฎหมาย

  • เจ้าของคลินิกที่โปรโมต Personal Branding ต้องระวังในการให้คำแนะนำหรือข้อมูลสุขภาพ เพราะหากการโฆษณาเกินจริง หรือไม่ถูกต้องตามหลักการแพทย์ เช่น การโฆษณาคำรับรอง (Testimonial) ที่เกินจริง อาจละเมิดกฎหมายในการโฆษณาเกี่ยวกับบริการทางสุขภาพ เช่น กฎหมายควบคุมการโฆษณาของ อย.
"ข้อเสีย," "ความไม่เป็นส่วนตัว," "ผลกระทบต่อภาพลักษณ์"

ลดบทบาทของทีมแพทย์ในคลินิก

  • การทำแบรนด์ส่วนบุคคลที่มากเกินไปอาจลดบทบาทของทีมงาน เช่น ตำแหน่งแพทย์ ทำให้คนมองภาพว่าแพทย์คนอื่นๆในคลินิกไม่มีความเชี่ยวชาญเท่า ลดโอกาสการเข้าใช้บริการทางอ้อมได้ ต้องระมัดระวังในการสื่อสารให้ดี
  • หากหมอเจ้าของไม่อยู่ เช่น ประกาศไปต่างประเทศชัดเจน 1 เดือนเต็ม ลูกค้า คนไข้อาจขาดความเชื่อมั่นในคลินิก เพราะมองว่าคลินิกไม่สามารถให้บริการได้มาตรฐานเหมือนตอนเจ้าของอยู่

คำแนะนำ

Personal Branding สำหรับเจ้าของคลินิกมีข้อดีในแง่ของการสร้างความน่าเชื่อถือและดึงดูดลูกค้า แต่ในฐานะเจ้าของธุรกิจ สิ่งสำคัญคือการ หาสมดุลระหว่างแบรนด์ส่วนบุคคลและแบรนด์ของคลินิก เพื่อป้องกันไม่ให้ธุรกิจขึ้นอยู่กับตัวบุคคลเพียงคนเดียว

Building a reputation takes years, but one misstep in the public eye can define you forever.

กีตาร์

Aesthetic Clinic Marketing Advisor

Home
»
Blog »
ข้อเสีย! การทำ Personal Branding ของบุคลากรทางการแพทย์