ใครคือเดอะแบก ของคลินิกคุณ เช็คเลย ใครกำลังแบกใครอยู่หรือเปล่า

ใครเป็นเดอะแบกของคลินิก

ในฐานะเอเจนซี่การตลาดที่ทำงานร่วมกับคลินิกความงามมานับไม่ถ้วน เราเห็นภาพนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า…

“เซลล์ถามการตลาด เดือนนี้ยอดตก ทำไงดี”
“การตลาดถามหมอ หมอครับ คนไข้ไม่เข้าเลย เราจัดโปรอะไรกันดี”
“หมอถามเอเจนซี่ ทำไมแอดไม่ได้ยอดเลย มีแต่คนถามไม่ซื้อ”

คำถามเหล่านี้ มันคือคำถามที่พบได้ทั่วไปตอนประชุม แต่บางคลินิกนั้น อาจจะสะท้อนถึงปัญหาที่ลึกกว่าแค่ยอดขายที่หายไป มันคือสัญญาณเตือนว่า “มีคนกำลังแบกทั้งคลินิกอยู่”

คำว่าเดอะ “แบก” ในธุรกิจคลินิกความงาม คืออะไร?

ขอให้ชัดเจนก่อน การ “แบก” ที่เราพูดถึงไม่ใช่เรื่องของใครทำงานหนักกว่าใคร เพราะทุกคนในคลินิกต่างก็ทำงานหนักกันทั้งนั้น

  • ไม่ใช่แค่ทำงานเสร็จ แต่ทำงานได้สำเร็จ
  • ไม่ใช่แค่ตอบแชท แต่ปิดการขายได้
  • ไม่ใช่แค่ทำหัตถการ แต่ทำให้คนไข้กลับมาซ้ำ
  • ไม่ใช่แค่บริการ แต่คือทำให้ลูกค้าประทับใจและบอกต่อ

5 สถานการณ์ “การแบก” ที่เจอบ่อยในคลินิกความงาม

1. หมอแบก – The Classic

อาการ: คนไข้มาเพราะหมอคนนี้คนเดียว พอหมอลา คลินิกเงียบ
ช่วงที่เจอบ่อย: คลินิกเปิดใหม่ที่อาศัยชื่อเสียงหมอคนเดียว

2. การตลาดแบก – The Modern Way

อาการ: ยอดขายมาจากโฆษณาออนไลน์เป็นหลัก พอหยุดยิงแอด ยอดหายทันที
ช่วงที่เจอบ่อย: คลินิกที่เน้นโปรโมชั่นราคาถูกเป็นจุดขาย

3. ทีมขายแบก – The Sales Machine

อาการ: Admin เก่ง 1-2 คนที่ปิดการขายได้เกือบทั้งหมด พอคนนี้ลาออก ยอดตกฮวบ
ช่วงที่เจอบ่อย: คลินิกขนาดกลางที่พึ่งพา Admin มือทอง

4. เอเจนซี่แบก – The Outsource Dependency

อาการ: ทุกอย่างพึ่งเอเจนซี่ ตั้งแต่คิดแคมเปญ ทำคอนเทนต์ จนถึงตอบแชท
ช่วงที่เจอบ่อย: คลินิกที่เจ้าของไม่มีเวลาดูแลเอง

แต่ละช่วงของธุรกิจ ใครควรแบกใคร?

ช่วงเปิดใหม่ (0-1 ปี)

ความจริงที่ต้องยอมรับ: ต้องมีคนแบก!

  • หมอแบกได้ ถ้ามีฐานคนไข้เดิม จากคลินิกเก่า โรงบาลที่ทำงานเก่า ใดๆก็ตามแต่
  • การตลาดแบกได้ ถ้ามีงบพอ
  • เจ้าของแบกได้ ถ้ามีเวลาและความมุ่งมั่น

กลยุทธ์: เลือกให้ชัดว่าจะให้ใครแบก แล้ว All-in ไปกับทางนั้น เพื่อรักษายอดขายให้ไม่ให้ขาดทุน

ช่วงเติบโต (1-3 ปี)

เป้าหมาย: เริ่มกระจายการแบก

  • ถ้าหมอแบกอยู่ → เพิ่มหมอ + สร้างแบรนด์คลินิก
  • ถ้าการตลาดแบก → สร้างฐานลูกค้าประจำ + Word of Mouth
  • ถ้าทีมขายแบก → พัฒนาระบบ + Training ทีมใหม่

กลยุทธ์: ค่อยๆ ลดการพึ่งพาจุดเดียว สร้างจุดแข็งหลายด้าน

ช่วงมั่นคง (3 ปีขึ้นไป)

เป้าหมาย: ไม่มีใครแบกใคร แต่ทุกคนช่วยกันแบก

  • หมอทุกคนมีฐานคนไข้
  • การตลาดสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
  • ทีมขายทุกคนปิดการขายได้
  • มีระบบที่ไม่พึ่งพาคนใดคนหนึ่ง

7 สัญญาณอันตราย ที่บอกว่าคลินิกคุณมีคนแบกมากเกินไป

  1. ยอดขายผูกติดกับคนๆ เดียว – พอคนนั้นไม่อยู่ ยอดหาย 30% ขึ้นไป
  2. ลูกค้าถามหาเฉพาะคน – “วันนี้หมอ A อยู่ไหมคะ ถ้าไม่อยู่ขอเลื่อนนัด”
  3. ทีมอื่นไม่กล้าตัดสินใจ – ทุกเรื่องต้องรอคนๆ นั้นมาตัดสินใจ
  4. ไม่มีคนทำแทนได้ – งานค้างเมื่อคนสำคัญลา
  5. การเติบโตหยุดนิ่ง – เพราะคนแบกทำงานเต็มที่แล้ว
  6. บรรยากาศตึงเครียด – คนที่แบกเหนื่อย คนที่ไม่ได้แบกรู้สึกไร้ค่า
  7. ต้นทุนสูงผิดปกติ – จ่ายเงินเยอะเพื่อรักษาคนแบกไว้

วิธีแก้ปัญหา “การแบก”

1. สร้างระบบ ไม่ใช่สร้างซุปเปอร์สตาร์

  • ทำ SOP ทุกขั้นตอน ตั้งแต่รับคนไข้จนส่งกลับบ้าน
  • ใช้ Technology เข้ามาช่วย (CRM, Automation, Chatbot)
  • สร้าง Check List ที่ใครก็ทำตามได้

2. กระจายความเชี่ยวชาญ

  • Cross Training ให้ทุกคนทำงานข้ามแผนกได้
  • Job Rotation เพื่อให้เข้าใจงานของกันและกัน
  • Buddy System จับคู่คนเก่าสอนคนใหม่

3. สร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งกว่าบุคคล

  • เน้นจุดเด่นของคลินิก ไม่ใช่แค่หมอ
  • สร้าง Corporate Identity ที่ชัดเจน
  • ทำ Content Marketing ที่สร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์

4. วัดผลเป็นทีม ไม่ใช่รายบุคคล

  • KPI ทีม มากกว่า KPI ส่วนตัว
  • Profit Sharing ที่ทุกคนมีส่วนร่วม
  • Celebrate Success ของทั้งทีม

5. มี Backup Plan เสมอ

  • ทุกตำแหน่งต้องมีคนทำแทนได้
  • Documentation ที่ดี ใครมาก็ทำต่อได้
  • Supplier หลายราย ไม่พึ่งพาที่เดียว

จากคลินิกที่ “หมอแบก” สู่ “ทุกคนแบกด้วยกัน”

คลินิก A – เปิดมา 5 ปี ยอดขาย 80% มาจากหมอเจ้าของคนเดียว

ปัญหาที่เจอ:

  • หมอทำงาน 7 วัน ไม่มีวันหยุด
  • คนไข้รอคิวนาน บางคนรอ 2 เดือน
  • หมอที่จ้างมาใหม่ คนไข้ไม่ยอมทำ
  • ขยายสาขาไม่ได้ เพราะหมอมีคนเดียว

สิ่งที่เราแนะนำ:

  1. เดือนที่ 1-3: สร้าง Personal Brand ให้หมอใหม่ ผ่าน Content ที่แสดงความเชี่ยวชาญ
  2. เดือนที่ 4-6: ทำ Co-Treatment หมอเจ้าของ + หมอใหม่ทำด้วยกัน
  3. เดือนที่ 7-9: Launch “Team Treatment” แนวคิดการรักษาโดยทีมแพทย์
  4. เดือนที่ 10-12: เปิด Booking ระบบใหม่ ให้เลือกแพ็กเกจ ไม่ใช่เลือกหมอ

ผลลัพธ์หลัง 1 ปี:

  • ยอดขายจากหมอเจ้าของลดเหลือ 40%
  • หมอใหม่ 3 คน รวมกันทำยอด 45%
  • ยอด Walk-in จากแบรนด์ 15%
  • หมอเจ้าของหยุดได้ 2 วันต่อสัปดาห์
  • เปิดสาขา 2 สำเร็จ

นี่คือคำถามที่คุณต้องตอบให้ได้วันนี้

  1. ใครกำลังแบกคลินิกคุณอยู่?
    • ดูจากยอดขาย ใครทำยอดได้มากที่สุด
    • ถ้าคนนั้นหายไป คลินิกจะเป็นอย่างไร
  2. คุณอยู่ในช่วงไหนของธุรกิจ?
    • ช่วงเปิดใหม่ที่ต้องมีคนแบก?
    • หรือถึงเวลาที่ต้องกระจายการแบกแล้ว?
  3. แผน 6 เดือนข้างหน้าคืออะไร?
    • จะลดการพึ่งพาคนแบกอย่างไร
    • จะสร้างระบบอะไรมาทดแทน
  4. ทีมของคุณพร้อมแค่ไหน?
    • ใครพร้อมจะ Step Up มาช่วยแบก
    • ต้องพัฒนาทักษะอะไรเพิ่ม

จากเอเจนซี่ที่เห็นมาเยอะ

การที่มีคนแบกในช่วงแรกไม่ใช่เรื่องผิด มันเป็นธรรมชาติของธุรกิจที่เพิ่งเริ่ม แต่การที่ยังมีคนแบกอยู่หลังจากทำธุรกิจมา 3-5 ปี นั่นคือสัญญาณอันตราย

คลินิกที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ไม่ใช่คลินิกที่มีซุปเปอร์สตาร์คนเดียว แต่เป็นคลินิกที่ทุกคนในทีมต่างช่วยกันแบก ต่างมีบทบาทสำคัญ และต่างสร้างคุณค่าให้กับคนไข้ ถ้าวันนี้คลินิกคุณยังมีคนแบกอยู่ ไม่ต้องตกใจ แต่ถึงเวลาแล้วที่ต้องวางแผน เพราะการแบกคนเดียวไม่ใช่ทางออกระยะยาวครับ

เพราะธุรกิจที่ยั่งยืน ไม่ใช่ธุรกิจที่มีคนแบก แต่เป็นธุรกิจที่ทุกคนช่วยกันยก

กีตาร์

Aesthetic Clinic Marketing Advisor

นัดปรึกษาแบบ 1:1
Home
»
Blog »
ใครคือเดอะแบก ของคลินิกคุณ เช็คเลย ใครกำลังแบกใครอยู่หรือเปล่า