เปิดคลินิกใหม่อยากได้ยอดล้าน ต้องมีงบยิงแอดเท่าไหร่

โฆษณาที่ดี ไม่ได้เริ่มจากงบ แต่เริ่มจากมุมมอง และยอดขายที่ได้ตามเป้า ก็ไม่ได้มาจากใช้งบเท่าไหร่ แต่เริ่มจาก “ขายอะไร”

ผู้มาทีหลังต้องทำการบ้านหนักกว่า ในตลาดคลินิกปัจจุบันที่แข่งขันสูง

  • คู่แข่งล้วนขายสินค้าและบริการคล้ายกัน (ยา เครื่องมือ)
  • โปรโมชั่นในตลาดมีความคล้ายคลึงกัน
  • จุดสำคัญ: ลูกค้าจะตัดสินใจเลือกคลินิกใหม่จากอะไร?

แต่ถ้าให้ตอบตัวเลขเป็นไกด์ไลน์ แน่นอนว่าไม่ควรต่ำกว่า 100,000.-/เดือน เพราะอะไรไปดูข้อมูลเพิ่มเติมกันครับ

กีตาร์ - ฝ่ายกลยุทธ์


ยิงแอดคลินิก ใช้งบ ใช้เงินเท่าไหร่ วางแผนยังไง

ต้องวิเคราะห์จุดแข็ง

แม้จะเข้าตลาดหลัง แต่ความสำเร็จขึ้นอยู่กับการระบุจุดเด่นที่ชัดเจน

  1. สินค้า/บริการหลัก – คลินิกของคุณควรมุ่งเน้นขายอะไร?
  2. เอกลักษณ์ของแบรนด์ – แบรนด์เหมาะกับบริการอะไร?
  3. ความเชี่ยวชาญของบุคลากร:
    • หมอมีความเชี่ยวชาญหรือเทคนิคพิเศษอะไร?
    • ทีมงานฝ่ายขายมีจุดแข็งด้านใด?

ได้ยอดขายตามเป้าไม่ได้เริ่มจากงบโฆษณา

การสร้างยอดขายที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัย

  • การทบทวนกลยุทธ์ ที่เคยวางแผนไว้ตั้งแต่ตอนคิดจะเปิดคลินิกและนำมาปรับใช้
  • ไม่พึ่งพาเพียงการยิงแอดเท่านั้น แต่ต้องมี กลยุทธ์การตลาดแบบองค์รวม สื่ออื่นๆที่จะ Convert ลูกค้าใหม่ๆเข้ามา

คลินิกขายอะไร

สำหรับเป้าหมายยอดขาย 1-1.5 ล้านบาท งบขั้นต่ำ 100,000 บาท/เดือน สำหรับการตลาด การคำนวณที่มาของตัวเลข (อ้างอิงจากข้อมูลบัญชีลูกค้าที่เราดูแลมากกว่า 200 Ads id ที่มีการใช้งบเกิน 100,000-1,000,000 ต่อเนื่อง)

กลุ่มบริการราคาเฉลี่ยตัวอย่างบริการลักษณะลูกค้า
Premium20,000 บาทฉีดฟิลเลอร์กำลังซื้อสูง, เน้นผลลัพธ์ชัดเจน
Mid-High10,000 บาทฉีดโบท็อกซ์กำลังซื้อดี, ตัดสินใจรวดเร็ว
Medium5,000 บาทเลเซอร์, ฉีดหน้าใสกำลังซื้อปานกลาง, เปรียบเทียบราคา
Entry1,500 บาทรักษาสิว, กำจัดขน, ฉีดผิวลูกค้าทั่วไป, อ่อนไหวด้านราคา

งบประมาณเพื่อเป้าหมาย

กลุ่มบริการจำนวนลูกค้า/เดือนคิดเป็นยอดขายอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้า
Premium10 คน200,000 บาท0.8%
Mid-High25 คน250,000 บาท1.5%
Medium50 คน250,000 บาท2.5%
Entry200 คน300,000 บาท4.0%
รวม285 คน1,000,000 บาท
ยิงแอดคลินิก ใช้งบ ใช้เงินเท่าไหร่

ความขัดแย้งระหว่างทฤษฎีและปฏิบัติ

ในทางทฤษฎีการตลาด

  • ควรมี Conversion Rate ที่ดี (เช่น 2-5%)
  • ROI ควรสูง (เช่น 3-5 เท่าของงบโฆษณา)
  • CAC (ต้นทุนการได้มาซึ่งลูกค้า) ควรต่ำกว่า 20-30% ของมูลค่าที่ลูกค้าจ่าย

แต่ในทางปฏิบัติ: หลายคลินิกใช้งบโฆษณามหาศาล มี Conversion Rate ต่ำมาก แต่กลับประสบความสำเร็จ

เหตุผลที่คลินิกที่ “เผางบ” ยังประสบความสำเร็จ

กำไรต่อบิลสูงมาก (High Margin)

  • บริการคลินิกความงามมีอัตรากำไร 60-80% ต่อบิล
  • ฉีดฟิลเลอร์ราคา 20,000 บาท อาจมีต้นทุนจริงเพียง 5,000-7,000 บาท
  • แม้ใช้งบโฆษณาสูงเพื่อหาลูกค้าก็ยังคุ้มทุน

ใช้ปริมาณทดแทนประสิทธิภาพ (Volume Game)

  • แทนที่จะได้ 5% จาก 1,000 คน (= 50 ลูกค้า)
  • ใช้งบสูงเพื่อเข้าถึง 10,000 คน แล้วได้ 1% (= 100 ลูกค้า)
  • สูตรคือ: 𝘾𝙤𝙣𝙫𝙚𝙧𝙨𝙞𝙤𝙣 𝙍𝙖𝙩𝙚 ต่ำ × 𝙑𝙤𝙡𝙪𝙢𝙚 สูงมาก = 𝙂𝙧𝙤𝙨𝙨 𝙋𝙧𝙤𝙛𝙞𝙩 สูง

มูลค่าลูกค้าระยะยาว (LTV) สูงมาก

  • ลงทุน 5,000 บาทเพื่อได้ลูกค้า 1 คน
  • แต่ลูกค้าคนนี้ใช้จ่ายตลอดชีวิต 100,000+ บาท
  • LTV : CAC Ratio ที่คุ้มค่าอาจสูงถึง 20:1

การสร้างแบรนด์ (Branding) มีมูลค่าระยะยาว

  • งบโฆษณาไม่ได้มีไว้เพื่อสร้างยอดขายทันที แต่สร้างการรับรู้แบรนด์
  • เมื่อเกิดภาพจำของแบรนด์ การตัดสินใจซื้อในอนาคตจะง่ายขึ้น
  • มูลค่าแบรนด์เป็นสินทรัพย์ที่การตลาดเฉพาะทางมองข้าม

จังหวะการซื้อ (Buying Cycle)

  • ลูกค้าอาจเห็นโฆษณา 7-8 ครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ
  • คลินิกที่สามารถแสดงโฆษณาซ้ำได้มาก (งบเยอะนั่นแหล่ะ) มีโอกาสปิดการขายสูงกว่า

สรุปแนวทางสำหรับคลินิกใหม่

  1. ค้นหาช่องว่างในตลาด และสร้างจุดยืนที่ชัดเจน
  2. เน้นจุดแข็งเฉพาะตัว ที่คู่แข่งไม่มี
  3. ลงทุนแบบมีเป้าหมาย ไม่ใช่แค่ยิงแอดทั่วไป
  4. ประเมินผลและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ อย่างต่อเนื่อง

สำหรับยอดขาย 1-1.5 ล้านบาท งบ 100,000 บาท/เดือนเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสม แต่ประสิทธิภาพการใช้งบสำคัญกว่าจำนวนเงิน


จ่ายเงินเดือนให้แล้ว ทำไมพนักงานขายยังไม่กระตือรือร้น? ให้ค่าคอม 1% ก็ไม่แย่นะ แต่ทำไมพนักงานยังไม่ค่อยจะดันยอดกันเท่าไหร่? หลายคลินิกเจอปัญหานี้เหมือนกันค่ะ เพราะคอมมิชชันแบบแบนๆ ต่อให้เปอร์เซ็นต์ดูสูง แต่ถ้าเป้าหมายยอดขายเพิ่มขึ้น ผลตอบแทนกลับเพิ่มไม่มากเท่าแรงที่ต้องทุ่ม ทำให้หลายคนรู้สึกว่าสู้ตายไปก็ได้เงินเพิ่มไม่คุ้มค่าความเหนื่อย

ลองเปลี่ยนวิธีคิดดูนะคะ จ่ายอินเซนทีฟแบบขั้นบันได — พอยอดขายเพิ่มถึงแต่ละขั้น ก็ได้เปอร์เซ็นต์หรือโบนัสเพิ่มอีก หรือมีรางวัลสำหรับคนที่ทำลายสถิติเดิม แบบนี้ทีมจะตื่นตัว อยากดันยอด และเห็นชัดว่าความพยายามตอบแทนคุ้มกว่าเดิม สุดท้ายแล้วคลินิกก็ได้ยอดขายที่ทะลุเป้าหมาย ทีมขายก็ภูมิใจและมีกำลังใจทุกเดือน ถ้าอยากรู้วิธีออกแบบโปรแกรมกระตุ้นทีมขายให้เวิร์กจริง อ่านต่อในบทความนี้ได้นะคะ!

อ่านต่อ

Google Business Profile คือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด ใช้เวลาแค่ 2-3 ชั่วโมง แต่ได้ผลทันที
ที่สำคัญ – มันฟรี และเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับธุรกิจใหม่

ผมเห็นหลายร้านเล็บ สปาเวียดนาม คลินิกเน้นราคาคุ้มค่า ทำแค่ขั้นตอนนี้ในเดือนแรก แล้วรีบไปยิงโฆษณา Facebook/Google Ads เพิ่ม ผลก็คือโทรศัพท์ดังไม่หยุด รับไม่วหาด! เพราะลูกค้าเห็นใน Google Maps ว่ามี “หน้าร้านจริงๆ” แผนที่ชัดเจน ข้อมูลครบถ้วน ดูเหมือนธุรกิจที่มีมาตรฐาน แม้จะเพิ่งเปิด 1-2 สัปดาห์ก็ตาม ความน่าเชื่อถือนี่แหละที่ทำให้ลูกค้ากล้าโทรมาถาม

ส่วนกุญแจสำคัญคือ “อย่าไปขัดกับ Google” เวลา Google ขอข้อมูลอะไร ขอรูปภาพ ขอยืนยันที่อยู่ ขอเบอร์โทรศัพท์ ให้ไปตามนั้นครบทุกอย่าง อย่าข้าม อย่าเว้น อย่าใส่ข้อมูลปลอม เพราะ Google รู้ทันที และจะลงโทษด้วยการไม่แสดงผลค้นหา หรือแสดงแต่อันดับต่ำๆ ยิ่งถ้ากรอกข้อมูลครบ 90% ขึ้นไป Google จะยิ่งชอบ ยิ่งแนะนำให้ลูกค้าเจอง่ายขึ้น

อ่านต่อ

แน่นอนครับ! เว็บไซต์ที่เราออกแบบและพัฒนาให้ลูกค้า ทุกประเภท—ไม่ว่าจะเป็นเว็บองค์กร, คลินิก, สปา, หรือร้านค้าออนไลน์—มีระบบป้องกันการ Hack รวมอยู่ในบริการเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม

เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับต้นๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ พัฒนา ไปจนถึงส่งมอบ

  • ใช้มาตรฐานป้องกันภัยคุกคาม เช่น SSL, ระบบกรองสแปม, ป้องกัน Bruteforce, Firewall และระบบอัปเดตความปลอดภัย
  • ดูแลตั้งค่าความปลอดภัยให้ครบถ้วนตั้งแต่ต้น
  • มีทีมงานตรวจสอบและแนะนำวิธีใช้งานอย่างปลอดภัย
  • การสำรองข้อมูล (Backup)

รวมถึงมาตรการความปลอดภัยแบบ 2 ชั้น (Two-factor Authentication หรือ 2FA) ในบางกรณีหรือเว็บไซต์ที่ต้องการระดับความปลอดภัยสูง เช่น เว็บไซต์ที่มีระบบสมาชิก, ระบบหลังบ้านที่มีข้อมูลสำคัญ หรือเว็บไซต์ที่เป็นเป้าหมายในการโจมตีบ่อย เราสามารถติดตั้ง/ตั้งค่าระบบยืนยันตัวตนแบบ 2 ชั้นให้ได้เช่นกัน แต่อาจต้องประเมินและเลือกใช้ให้เหมาะกับรูปแบบเว็บไซต์และการใช้งานของแต่ละธุรกิจด้วยครับ

อ่านต่อ

ในทางทฤษฎี อาจดูเหมือนว่าผู้ใช้สามารถรอเว็บไซต์โหลดได้ 2-3 วินาที แต่ในทางปฏิบัติจริง ผมพบว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยอดทนรอขนาดนั้น โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าคลินิกความงามที่คาดหวังประสบการณ์ที่รวดเร็วและมืออาชีพ หากเว็บโหลดช้ากว่า 1 วินาที ความสนใจของผู้ใช้จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด จึงสรุปได้ว่าตัวเลข “1 วินาที” คือเป้าหมายที่ควรโฟกัส เพราะให้โอกาสสูงสุดที่จะดึงลูกค้าให้เข้ามายังเว็บไซต์ของเราได้มากที่สุด

อ่านต่อ

AEO (Answer Engine Optimization) คือเทคนิคการปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะสมกับการให้คำตอบโดย AI หรือผู้ช่วยดิจิทัล ซึ่งเน้นการจัดกลุ่มคำตอบที่ชัดเจน กระชับ และตรงประเด็น เพื่อให้ AI สามารถดึงไปใช้ตอบคำถามผู้ใช้งานได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว แตกต่างจาก SEO ที่เน้นการเพิ่มอันดับบนหน้าค้นหาและดึงดูดผู้คนเข้าชมเว็บไซต์โดยตรง

ตัวอย่างที่ชัดเจนจากลูกค้าของเราอย่าง D’ Lovevery Clinic ที่ทำงานร่วมกันมากว่า 1 ปี ด้วยการพัฒนาเนื้อหาถาม-ตอบในส่วน FAQ [https://dloveveryclinic.com/faq/] ทำให้เว็บไซต์ของคลินิกประสบความสำเร็จทั้งในด้านการค้นหาที่เพิ่มขึ้น, AI นำข้อมูลไปใช้เป็นคำตอบใน summary และเกิดยอดขายที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการใช้ AEO ร่วมกับ SEO สามารถสร้างคุณค่าและผลลัพธ์ที่ชัดเจนในธุรกิจจริงได้

อ่านต่อ

ปัญหาหลักที่หลายๆคลินิกกำลังเผชิญคือ กลยุทธ์การตลาดบน LINE ของเรากำลังดึงดูด “นักล่าของฟรี” เข้ามาเป็นจำนวนมากแทนที่จะเป็น “ลูกค้าตัวจริง” ครับ คนเหล่านี้แอดไลน์เข้ามาเพื่อรับของฟรี พอได้ของแล้วก็บล็อกทันที ประกอบกับการที่เราส่งข้อความโปรโมชั่นแบบหว่านหาทุกคนมากเกินไป ทำให้ผู้ติดตามที่อาจจะไม่ได้สนใจจริงๆ รู้สึกรำคาญและกดบล็อกตามไปด้วย ผลลัพธ์คือเราได้ฐานผู้ติดตามที่เยอะแต่ไม่มีคุณภาพ ยอดบล็อกจึงสูงกว่ายอดผู้ติดตามใหม่ และทำให้การตลาดของเราไม่เกิดผลลัพธ์ทางธุรกิจอย่างที่ควรจะเป็นครับ

สำหรับแนวทางการแก้ไขและแผนการตลาดเพื่อเปลี่ยนผู้ติดตามให้เป็นลูกค้าตัวจริง สามารถดูรายละเอียดฉบับเต็มด้านล่างนี้ได้เลยครับ

อ่านต่อ

Home»FAQ»เปิดคลินิกใหม่อยากได้ยอดล้าน ต้องมีงบยิงแอดเท่าไหร่