แชร์ประสบการณ์ จะต่างกันแค่ไหน เมื่อผ่าน 2-3 ปี
ในยุคดิจิทัลที่การแข่งขันของธุรกิจคลินิกความงามสูงขึ้นเรื่อยๆ หลายคลินิกเลือกที่จะทุ่มงบประมาณไปกับการโฆษณาออนไลน์ แต่คุณเคยสงสัยไหมว่า การมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองจะสร้างความแตกต่างอย่างไรในระยะยาว?
คลินิกเปิดใหม่ กระหน่ำยิงแอด
จากข้อมูลลูกค้าของเราเอง ตลอด 12 ปี คลินิกเปิดใหม่ หรืออายุคลินิกเปิดมาไม่เกิน 1 ปี พบว่า 80-90% มักเริ่มต้นด้วยการทำการตลาดผ่านการยิงแอดโฆษณา ซึ่งต้องใช้งบประมาณสูง และอาศัยคอนเทนท์ที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายจริงๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราพบความแตกต่างที่น่าสนใจ ระหว่างคลินิกที่ยิงแอดอย่างเดียว กับคลินิกที่ ยิงแอด + (แบ่งงบมาทำเว็บไซต์และ SEO อย่างต่อเนื่อง)
- ช่วง 1 ปีแรก ผลลัพธ์ระหว่างคลินิกที่มีและไม่มีเว็บไซต์จะไม่แตกต่างกันมากนัก
- ตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไป คลินิกที่มีเว็บไซต์ที่ดีและทำการตลาดอย่างต่อเนื่องเริ่มเห็นผลชัดเจน เช่น
- ได้กลุ่มลูกค้าที่มีมีกำลังซื้อ ไม่ติดขัดเรื่องราคาค่าบริการ
- ได้กลุ่มลูกค้าที่มีข้อมูลเบื้องต้นว่า บริการที่เขาสนใจนั้นคืออะไร ไม่ต้องอธิบายเยอะ
- สามารถสร้างยอดขายได้ด้วยงบโฆษณาที่เท่าเดิมหรือน้อยลง แต่คลินิกที่ยิงแอดอย่างเดียว ต้องใช้งบมากขึ้น เพื่อให้ได้ยอดขายเท่าเดิม
- คลินิกที่มีเว็บไซต์ มีต้นทุนการได้มาซึ่งลูกค้า (Customer Acquisition Cost) ที่ลดลง
ประโยชน์ของเว็บไซต์ มีมากกว่าที่คิด
เว็บไซต์ไม่ได้มีประโยชน์แค่ด้านการตลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์รวมข้อมูลที่สำคัญสำหรับการเทรนด์นิ่งพนักงาน หลายคลินิกให้ทางเราพัฒนาระบบหลังบ้าน เพื่อใช้เป็นศูนย์รวมข้อมูลในการเทรนด์นิ่งความรู้แก่พนักงาน หรือแม้แต่แพทย์ที่เข้ามาใหม่ โดยให้ Username Password เข้าไปดูคลิปวีดีโอ เนื้อหาแบบเชิงลึกเลย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลบริการ วิธีการปิดการขาย วิธีรับมือกับลูกค้าแต่ละประเภท
- Knowledge Center สำหรับพนักงานใหม่
- เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการ
- เพิ่มประสิทธิภาพในการปิดการขาย
- รวบรวมภาพก่อน-หลังทำ หัตถการ ทรีตเมนต์
ผลกระทบต่อต้นทุน
คลินิกที่ไม่มีเว็บไซต์
- มีแน้วโน้มต้องเพิ่มงบโฆษณาอย่างต่อเนื่อง
- ขาดความต่อเนื่องในการจัดการข้อมูล
คลินิกที่มีเว็บไซต์
- ลดการพึ่งพาการซื้อโฆษณาลงได้
- มีระบบจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ
- สร้างความน่าเชื่อถือในระยะยาว

สรุปการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวจริงไหม
จากที่เห็นมาหลายคลินิก มันชัดเจนมากว่า คลินิกที่อยู่รอดได้ในระยะยาวต้องมีฐานที่แข็งแรง ไม่ใช่แค่รอลูกค้าจากการยิงแอดอย่างเดียว ลองดูคลินิกที่เปิดใหม่ ทุ่มงบไปกับการยิงแอดโฆษณา พอถึงจุดนึงก็เริ่มเห็นว่าไม่คุ้ม แถมพอระบบมีการปรับเปลี่ยนอัลกอลึทึมไปเรื่อย มีปัญหากับระบบ Ads เพจโดนแบน โดนปิดกันต่างๆนาๆ หรืองบหมด ก็ยิ่งทำให้ธุรกิจเข้าใกล้จุดที่่จะต้องปิดตัวลงได้ง่ายๆ
แต่ต้องเข้าใจด้วยว่า การมีเว็บไซต์ไม่ได้การันตีความสำเร็จ 100% มันเหมือนการซื้อที่ดินสักแปลง คุณต้องรู้ว่าจะสร้างอะไร วางผังยังไง และ ต้องมีทั้งงบประมาณและทีมงานที่พร้อม การทำ SEO ให้ติดอันดับ การสร้างคอนเทนต์ที่ปิดการขายได้ มันต้องใช้ทั้งความรู้และประสบการณ์ เคยเห็นหลายเคสที่ทำเว็บไซต์ แล้วปล่อยทิ้งไว้ เพราะไม่มีคนดูแลต่อ หรือไม่เข้าใจว่าต้องทำยังไงให้เว็บมีประสิทธิภาพ
ถ้าจะทำ ต้องมั่นใจว่าคุณพร้อมจะทำธุรกิจระยะยาวจริงๆ และมีทีมที่เข้าใจเรื่องการทำการตลาดออนไลน์ แต่ถ้าถามว่าควรเริ่มเมื่อไหร่ ผมว่ายิ่งเริ่มเร็วยิ่งดี เพราะการสร้างการรับรู้และความน่าเชื่อถือออนไลน์มันต้องใช้เวลา เหมือนการปลูกต้นไม้ ยิ่งปลูกเร็ว รากก็ยิ่งแข็งแรง แต่ต้องรู้จักดูแลและให้น้ำให้ปุ๋ยสม่ำเสมอ
ผมว่าถ้าใครกำลังคิดจะทำธุรกิจคลินิก อย่าลืมวางแผนเรื่องนี้ตั้งแต่แรก อย่ารอให้ถึงจุดที่ยอดขายตก หรือค่าโฆษณาสูงเกินไปแล้วค่อยหาทางออก เพราะตอนนั้นอาจจะสายเกินไป การมีเว็บไซต์ที่ดีมันเหมือนมีพนักงานขายที่ทำงานให้เรา 24 ชั่วโมง แถมยังเป็นคลังความรู้ให้ทีมงานด้วย แต่ก็ต้องลงทุนทั้งเงินเวลาจริงๆครับ