คนไข้ไม่เอาหมอสไตล์ไหนบ้าง
ขออนุญาตใช้คำนี้เลยนะครับ เพราะเคยได้ยินจากปากคนไข้แบบนี้เยอะมากๆ พี่ไม่เอานะหมอแบบนี้!!
ในฐานะที่เป็นที่ปรึกษาคลินิกความงาม รวมทั้งมีประสบการณ์ในแวดวงนี้มานานกว่า 12 ปี ผมได้ศึกษาพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างหมอและคนไข้ พบว่ามี 5 พฤติกรรมหลักที่ทำให้คนไข้ไม่กลับมาซื้อซ้ำ แม้ผลลัพธ์จากการรักษาจะดีเยี่ยมก็ตาม พฤติกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ลดความน่าสนใจของคลินิก แต่ยังสร้างความรู้สึกไม่สบายใจให้กับคนไข้ เป็นการสร้างอุปสรรคในการบอกต่อภาพลักษณ์ที่ดีของคลินิกด้วย
ไม่จดจ่อการรักษา
คนไข้ยังไม่ชอบเมื่อหมอไม่ใจจดใจจ่อขณะที่ทำการรักษา เช่น การร้องเพลงหรือฮัมเพลงในขณะที่ฉีดหน้า บางคลินิกมีการไลฟ์สด ทำคลิปไปด้วย คิดจะหยุดก็หยุด หยุดนานจนยาชาหายชาหมดแล้ว คิดจะฉีดก็ฉีด หรือการเล่าเรื่อง คุยเรื่องส่วนตัวมากเกินไป โดยไม่คำนึงถึงว่าคนไข้กำลังรู้สึกอย่างไร สิ่งเหล่านี้ทำให้คนไข้รู้สึกว่าหมอไม่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกและความต้องการของพวกเขา
เจ็บแต่ไม่หยุด
คลาสสิคมากเรื่องนี้ ทุกหัตถการความงาม จะต้องมีการใช้เข็ม เจาะผิว ใดๆก็ตามแต่ คนไข้เจ็บ ทนไม่ไหว จนต้องร้องขอให้หมอหยุดทำการรักษาชั่วคราว แต่กลายเป็นว่าหยุดไม่ได้ หรือทำทุกอย่างที่จะทำให้เจ็บน้อยลงไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว หมอต้องดำเนินการรักษาต่อไปจนจบ ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากไม่ได้บอกคนไข้ หรือบอกแบบบิดเบือนมากเกินไป (เพราะเซลล์กลัวไม่ได้ขาย) คนไข้ไม่ได้เตรียมตัวมาเจ็บขนาดนี้
ศัพท์เทคนิคเยอะเกินไป
การใช้ศัพท์แพทย์มากเกินไป เป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อความเข้าใจของคนไข้ ทำให้พวกเขารู้สึกไม่เข้าใจและไม่มีความกล้าพอที่จะถามเพิ่มเติม ซึ่งอาจนำไปสู่การที่พวกเขารู้สึกอึดอัดและไม่ต้องการที่จะกลับมาที่คลินิกนี้อีกครั้ง ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างหมอและคนไข้ลดลงอย่างมาก
การให้คำปรึกษาแบบ Hard Sale เกินไป
เพราะลูกค้ารู้สึกว่าถูกกดดันมากเกินไป การใช้วิธีการขายแบบ Hard Sale อาจทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่สบายใจและไม่ปลอดภัยในการตัดสินใจซื้อสินค้า หรือบริการอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ลูกค้าอาจไม่รู้สึกไว้วางใจในบริการเพราะรู้สึกว่าถูกผลักดันมากเกินไปไปในบางสถานการณ์ จึงส่งผลให้พวกเขาไม่ต้องการกลับมารับบริการซ้ำในอนาคต เนื่องจากเกิดความรู้สึกไม่ดีต่อการใช้บริการในครั้งก่อนหน้านี้
ลูกค้าสับสนในข้อมูล
แอดมินให้ข้อมูลอีกแบบ เซลล์หน้าร้านให้ข้อมูลอีกอย่าง พอพบหมอ กลายเป็นอีกอย่าง คำถามเดียว ได้ 3 คำตอบ เมื่อข้อมูลที่หมอให้ไม่ตรงกับสิ่งที่สื่อสารทางการตลาดบนหน้าเพจหรือเว็บไซต์ เช่น โปรโมชันที่ไม่ตรงกัน ก็สร้างความสับสนและทำให้คนไข้ตัดสินใจไม่ได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาไม่รู้สึกเชื่อถือและไม่สนิทใจในการกลับมา เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่ความผิดของคุณหมอ แต่คลินิกต้องระมัดระวังในเรื่องนี้ให้มากๆ
